Chill Car Care - เคลือบแก้ว พ่นกันสนิม - ศรีราชา ชลบุรี

อันนี้เป็นประสบการณ์ตรงเลยครับ ที่พบเจอค่อนข้างบ่อย ลูกค้าส่วนมาก เข้ามาที่ร้าน และแน่นอนว่าเลือกใช้บริการที่ง่ายและสะดวกที่สุด คือ การล้างสีดูดฝุ่น ซึ่งก็เป็นงานบริการหลักของคาร์แคร์ทุกที่อยู่แล้วครับ แต่เรื่องที่น่าสงสัยและคนส่วนใหญ่ไม่น่าจะรู้คือ... การเคลือบสีนั้น...มีประโยชน์มากนักครับ แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ ไม่ทราบ และถามเรากลับว่า ทำไมต้องเคลือบด้วย หรือ... ไม่เคลือบดีกว่า เพราะเดี๋ยวฝนก็ตก จริงๆแล้วต้องบอกว่า เพราะฝนตกนั่นแหละครับ เราถึงควรเคลือบสีรถ เพราะว่าการเคลือบสีนั้น ก็คือการเคลือบผิวของตัวรถ ไว้ด้วยฟิล์มเคลือบบางๆ ที่นอกจากจะช่วยให้รถดูเงางามขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มการปกป้องผิวสีของรถจากน้ำและฝุ่นละอองในอากาศด้วยครับ ลูกค้าส่วนใหญ่คิดว่า เคลือบไป เดี๋ยวพอฝนตก เคลือบก็หาย ใช่ครับ แต่ไม่ต้องให้ฝนตกหรอกครับ ขับรถไปสักพัก ต่อให้ฝนไม่ตก อีกไม่กี่อาทิตย์ ผิวเคลือบก็จะหายไปเช่นกัน แต่มันก็ดีว่าไม่ได้เคลือบอะไรบนรถเลย เพราะเหมือนเราอาบน้ำนั่นแหละครับ อาบเสร็จ เราออกมาแต่งตัวออกไปข้างนอก ทีนี้ พอเราเจอแดดเจอลมเจอฝน ผิวเราก็เสีย ไม่ต่างอะไรกับรถครับ การ เคลือบสี

หน้าฝนแล้ว ขับรถไปย่อมเจอฝนตกใส่ น้ำขังตามแอ่งตามพื้น เลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องขับผ่านให้น้ำมันกระเด็นใส่เป็นธรรมดาครับ หลายๆท่านกังวลเรื่องสนิม ก็เป็นเรื่องปกติครับ ช่วงนี้หน้าฝน ขับรถยังไงก็ต้องเจอน้ำเจอฝนเป็นธรรมดา ยังไม่รวมพวกน้ำขังซึ่งก็มีสิ่งสกปรกต่างๆอยู่ในนั้นเต็มไปหมด แน่นอน เมื่อเราขับผ่าน สิ่งสกปรกที่ติดมากับน้ำพวกนั้น ก็ย่อมกระเด็นขึ้นมาที่รถเราเป็นธรรมดาครับ การป้องกันไม่ให้อะไรมาเกาะช่วงล่างรถเรานี่ ยากมาก ยากสุดๆ ขับไปยังไงก็ต้องเจอครับ และปัญหาหลักๆของมันก็คือ เราแทบจะไม่ค่อยได้ก้มลงไปดูข้างล่างมันเลยนี่สิ มองปกติไม่ค่อยจะเห็น ก้มไปก็เลอะเทอะเปรอะเปื้อนเสียอีก เลยปล่อยผ่านไปก่อน ไม่ว่ากัน มารู้สึกตัวอีกที เอารถเข้าศูนย์ โห...ช่วงล่างช่างด่างพร้อยอะไรเยี่ยงนี้ สนิมเกาะแกะกันเต็มไปหมด... แน่นอนครับ มันเรื่องธรรมดา ช่วงล่างรถเรา ส่วนใหญ่มันก็วัสดุทำจากโลหะทั้งนั้นครับ นานๆไปถ้าไม่ดูแลมันมั่ง ก็คงเลี่ยงสนิมได้ยาก อ้าว...แล้วรถที่ล้างอัดฉีดบ่อยๆล่ะ จะกันสนิมได้มั้ย? ตอบตรงๆว่า ไม่น่าจะได้เท่าไหร่ครับ เพราะว่า การล้างอัดฉีดมันก็เหมือนการล้างน้ำหรืออาบน้ำให้รถนั่นแห

ส่วนมาก คนขับรถทั่วไป ก็มักจะเข้าไปในคาร์แคร์ แล้วก็แจ้งพนง.ว่า "ล้างสีดูดฝุ่น" หรือไม่ก็ "ล้างอัดฉีด" เคลือบเงารถยนต์ นั่นคือบริการขั้นต่ำที่แทบทุกคาร์แคร์ก็น่าจะมีเหมือนกันหมด อ้าว...แล้วเคลือบสี มันคืออะไรล่ะ??? เคลือบสี(หรือแว๊กซ์สี เคลือบแว๊กซ์ เคลือบเงา) ก็คือ การใช้น้ำยาที่ส่วนใหญ่มีส่วนผสมหลักเป็นแว็กซ์ หรือไข ซึ่งเมื่อเอามาละเลงจนทั่วผิวสีของรถแล้วเช็ดออกให้สะอาด ก็จะเกิดเป็นชั้นฟิล์มบางๆเคลือบผิวสีรถ ซึ่งส่วนใหญ่ ก็จะมีคุณสมบัติเพิ่มความเงางามให้กับรถได้อีกด้วย ราคาก็มีอยู่หลายระดับมากๆ ทั้งแค่หลักร้อยนิดๆ ไปจนถึงหลังพัน หรือบางครั้งก็หลายพันก็ยังมี ถามว่ามันดีมั้ย ก็ต้องตอบว่า ดีครับ การเคลือบแว๊กซ์ ก็เหมือนเราอาบน้ำแล้วทารองพื้นหรือกันแดดออกจากบ้านไปนั่นแหละครับ มันมีการปกป้องผิวชั้นนอกสุด ด้วยสารสกัดที่ช่วยลดการจับตัวของฝุ่นละอองหรือน้ำที่อยู่ในอากาศ เหตุที่เราควรจะต้องเคลือบสีรถ ก็เพราะว่า ชั้นสีของตัวรถ ที่ออกมาจากโรงงาน ผ่านโชว์รูมมาถึงยังมือของเราๆนั้น ก็ได้มีการเคลือบแลคเกอร์ไว้เหนือชั้นสีอีกทีนึงอยู่แล้ว เพื่อป้องกันอันตรายจากสิ่งใดๆที

เปิดเข้าไปอ่านในกระทู้พันทิป หลายๆท่านก็มีต่างความเห็นมากมายครับ ว่าจำเป็นบ้าง ไม่จำเป็นบ้าง อันนี้ผมก็คงไม่ก้าวล่วงเข้าไปวิจารณ์ความเห็นใดๆนะครับ พ่นกันสนิม เอาเป็นว่า ขออธิบายเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของการพ่นกันสนิมก่อนละกันนะครับผม "พ่นกันสนิมรถยนต์" คือการพ่นน้ำยากันสนิมช่วงล่างของตัวรถ หรือก็คือใต้ท้องรถนั่นเองครับ ถ้าถามว่า อ้าว แล้วโรงงานที่ผลิตรถยนต์เขาไม่ได้พ่นมาให้หรอกเหรอ คำตอบคือ พ่นครับ แน่นอน การผลิตรถยนต์ในอุตสาหกรรมนั้น ต้องชุบเคลือบและพ่นกันสนิมที่ตัวเหล็กมาให้อยู่แล้วครับ แต่ก็เป็นเรื่องปกติ ที่ทุกสิ่งอย่างในโลกล้วนอนิจจัง(ว่าไปนั่น) ไม่มีอะไรคงทนถาวรไปทุกสิ่งอย่างหรอกครับ นานเข้า พอใช้งานรถไปเรื่อยๆ มันก็ต้องมีสึกหรอไปเป็นธรรมดา สีที่เคยสวยสดเนียนเรียบ ขับรถไปนานๆ เจอฝุ่นหินดินทรายที่อยู่ในอากาศหรือละอองน้ำมันกระเด็นมาโดนตัวรถ มันก็เหมือนการขัดหรือ Scrubb สีไปในตัวครับ แลคเกอร์ที่เคลือบสีรถก็จะค่อยๆถูกกัดกร่อนไปเรื่อยๆตามอายุงานและสภาพการใช้ เช่นเดียวกันกับช่วงล่างรถยนต์ครับ ใช้งานนานๆไป ก็อาจจะมีสึกหรอกันไปบ้างตามกาลเวลา ส่วนตัวผมเอง คงไม่สามา