พ่นกันสนิมแล้ว ต้องกลัวน้ำ กลัวฝนมั้ย? เจอฝนเปียกๆแล้วสีจะลอกหลุดหรือเปล่า??? (ชิลคาร์แคร์ พ่นกันสนิม เคลือบแก้ว ศรีราชา ชลบุรี)
หลายๆครั้ง มีลูกค้าส่วนนึงที่มักจะสงสัยว่า การพ่นกันสนิมในช่วงเวลาที่ฝนตก อาจจะทำให้สีลอกหรือหลุดหลังจากพ่นไปแล้วหรือเปล่า ขณะที่ขับรถออกจากร้าน กลับบ้าน ถ้าลุยฝน หรือเจอฝนตก จะต้องกังวลว่าสีจะหลุดหรือเปล่า
แน่นอนครับ เกริ่นมาขนาดนี้ คำตอบคือ "ไม่ต้องห่วง" แน่นอนอยู่แล้วครับผม ^^
สาเหตุหลักๆก็เพราะว่า
ตัวสีพ่นกันสนิมนั้น ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการป้องกันความชื้นเป็นหลักอยู่แล้วครับ มันจะมีคุณสมบัติ ป้องกันการกัดกร่อนจากน้ำเค็ม และความชื้นต่างๆที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมภายนอกอยู่แล้วครับ
ที่เหลืออย่างเดียวที่อาจจะมีปัจจัยอยุ่บ้าง ก็คือ "ความแข็งตัว" หรือ "การแห้ง" ของสีที่ถูกพ่นลงไปที่พื้นผิวแล้วนั่นเองครับ ว่าตัวสีนั้น แห้งสนิท หรือแห้งมากพอที่จะโดนน้ำกระเด็นใส่หรือยัง
ซึ่งเอาจริงๆ ต่อให้ยังแห้งไม่สนิทดี ก็ไม่ค่อยจะน่าเป็นห่วงมากนักครับ
เพราะตัวสีพ่นกันสนิมนั้น เมื่อพ่นลงไปที่ผิวโลหะแล้ว มันก็จะเริ่มจับตัวและทำปฏิกริยาเพื่อเซ็ตตัวให้แห้งอยู่แล้วครับ พื้นผิวชั้นบนก็จะค่อยๆแห้งแข็งตามมาในเวลาต่อมานั่นเอง
ถ้าเป็นแต่ก่อน งานพ่นกันสนิม จะมีการใช้สูตรพวกยางมะตอยเป็นหลัก
งานพ่นจากยางมะตอยนี่ แทบจะไม่ได้แห้งเลยครับ จะมีความเยิ้มความเหนียวอยู่แทบจะตลอดเวลาเลยทีเดียว แน่นอนว่า ขับไป เจอน้ำ ก็ดูดน้ำ เจอฝุ่น เจอดิน เจอเศษหิน ก็จะดูดติดมาหมดครับ อันนี้ก็ถือว่า พ่นเพื่อกันสนิมจริงๆ แต่ความสวยงามและความคงทน อาจจะไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก
ส่วนในยุคนี้ ก็จะมีสูตรพ่นกันสนิมหลักๆอยู่ 2 สูตรด้วยกัน
ที่แพร่หลายหน่อยก็จะเป็นสูตรน้ำครับ ที่จะมีโรงงานรับผลิตและจำหน่ายเป็นแบรนด์ ให้กับทางอู่หรือร้านพ่นต่อไป
สูตรน้ำจะค่อนข้างสำเร็จรูปครับ งานพ่นจะง่ายหน่อย แห้งเร็วพอสมควร ก็ถือว่าดีทีเดียวครับ ใช้งานตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดี
ส่วนอีกสุตรนึงที่จะหายากหน่อย ก็จะเป็นสูตร 2K ซึ่งก็จะต้องผสมสารเคมีมากกว่า 1ตัว อย่างเช่นสูตรโจตันที่ทางร้านใช้อยู่ ซึ่งจะมีการผสมทินเนอร์หรือน้ำมันสนเข้าไปเพิ่มด้วยด้วยเพื่อให้มันทำปฏิกริยาคลายการจับตัวเพื่อให้เหลวพอจะใส่กาพ่นออกมาเป็นละอองที่ละเอียดได้
ขณะเดียวกันก็จะต้องมีการใส่สารจำพวก Hardener เข้าไปด้วยครับ เพื่อทำปฏิกริยาเร่งแข็ง เพื่อทำให้งานที่พ่นไปแล้วนั้น มีการแข็งตัวเร็วขึ้น เพราะถ้าไม่ผสมสารเคลือบแข็งหรือ Hardener พวกนี้ไปด้วยแล้วล่ะก็ กว่าจะแห้งสนิทนี่ อาจจะใช้เวลาเป็นสิบชั่วโมงได้ทีเดียวครับ
จะเห็นได้ชัดเลยว่า สูตร 2K นั้น จะมีการทำงานที่ค่อนข้างจะซับซ้อนกว่าสูตรน้ำกว่ามากครับ
สาเหตุหลักๆก็เพื่อความแข็งแรงทนทานนั่นเอง
เพราะสูตร 2K นี้ ถ้าพ่นไปแล้วเกิน 48 ชม. ส่วนใหญ่จะแทบล้างออกไม่ได้เลยทีเดียวครับ เพราะแข็งมากมายจริงๆ (ส่วนใหญ่จะแข็งกว่าสูตรน้ำครับ)
แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้งานเองด้วยครับ
ว่าชอบในการใช้งานของสูตรไหนมากกว่ากันครับผม
ซึ่งโดยสรุปแล้ว
ทั้งสองสูตรนั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหรือความชื้นหลังจากพ่นเลยครับ
เพราะมันค่อนข้างกันน้ำกันเปียกได้ดีอยู่แล้วจริงๆ
เว้นแต่กรณีเดียวคือ
พ่นเสร็จปุ๊บ ก็ขับรถออกไปเลยทันที อันนี้อาจจะลุยฝนแล้วทำให้ผิวงานพ่นเกิดการปนเปื้อนได้บ้างครับ
ที่จะเจอบ่อยๆ ก็เช่นงานพ่นจากอู่ทั่วๆไป ที่หลังพ่นเสร็จ ก็รีบส่งรถให้ลูกค้าเลย เน้นพ่นหลายๆคันต่อวัน พ่นเสร็จคันนึง รีบส่งรถลูกค้า แล้วพ่นคันต่อไปต่อทันที
จริงๆแล้ว ถ้าเป็นงานที่ละเอียดหน่อย จะมีการเก็บงานหลังจากพ่นเสร็จแล้วด้วยนะครับ การเก็บละอองสีที่ปลิวมาโดนข้างตัวรถขณะพ่นนั้นก็สำคัญครับ ต้องมีการเก็บละอองน้ำยาด้วย ซึ่งการเก็บงานตรงนี้เอง จะช่วยให้สีพ่นนั้นมีเวลาที่ได้จับตัวแห้งมากขึ้นด้วยครับ
ก็ต้องลองๆศึกษาดูนะครับ สอบถามกันดูดีๆว่า แต่ละที่นั้นมีการเตรียมผิวงานก่อนพ่นหรือเก็บงานหลังพ่นอย่างไรบ้างครับ
หากสนใจงานพ่นกันสนิม สามารถติดต่อผมได้ที่เบอร์ 064-4545-951 ได้เลยครับผม
หรือไปที่ลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
>>>
พ่นกันสนิม ศรีราชา ชลบุรี
แน่นอนครับ เกริ่นมาขนาดนี้ คำตอบคือ "ไม่ต้องห่วง" แน่นอนอยู่แล้วครับผม ^^
สาเหตุหลักๆก็เพราะว่า
ตัวสีพ่นกันสนิมนั้น ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการป้องกันความชื้นเป็นหลักอยู่แล้วครับ มันจะมีคุณสมบัติ ป้องกันการกัดกร่อนจากน้ำเค็ม และความชื้นต่างๆที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมภายนอกอยู่แล้วครับ
ที่เหลืออย่างเดียวที่อาจจะมีปัจจัยอยุ่บ้าง ก็คือ "ความแข็งตัว" หรือ "การแห้ง" ของสีที่ถูกพ่นลงไปที่พื้นผิวแล้วนั่นเองครับ ว่าตัวสีนั้น แห้งสนิท หรือแห้งมากพอที่จะโดนน้ำกระเด็นใส่หรือยัง
ซึ่งเอาจริงๆ ต่อให้ยังแห้งไม่สนิทดี ก็ไม่ค่อยจะน่าเป็นห่วงมากนักครับ
เพราะตัวสีพ่นกันสนิมนั้น เมื่อพ่นลงไปที่ผิวโลหะแล้ว มันก็จะเริ่มจับตัวและทำปฏิกริยาเพื่อเซ็ตตัวให้แห้งอยู่แล้วครับ พื้นผิวชั้นบนก็จะค่อยๆแห้งแข็งตามมาในเวลาต่อมานั่นเอง
ถ้าเป็นแต่ก่อน งานพ่นกันสนิม จะมีการใช้สูตรพวกยางมะตอยเป็นหลัก
งานพ่นจากยางมะตอยนี่ แทบจะไม่ได้แห้งเลยครับ จะมีความเยิ้มความเหนียวอยู่แทบจะตลอดเวลาเลยทีเดียว แน่นอนว่า ขับไป เจอน้ำ ก็ดูดน้ำ เจอฝุ่น เจอดิน เจอเศษหิน ก็จะดูดติดมาหมดครับ อันนี้ก็ถือว่า พ่นเพื่อกันสนิมจริงๆ แต่ความสวยงามและความคงทน อาจจะไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก
ส่วนในยุคนี้ ก็จะมีสูตรพ่นกันสนิมหลักๆอยู่ 2 สูตรด้วยกัน
ที่แพร่หลายหน่อยก็จะเป็นสูตรน้ำครับ ที่จะมีโรงงานรับผลิตและจำหน่ายเป็นแบรนด์ ให้กับทางอู่หรือร้านพ่นต่อไป
สูตรน้ำจะค่อนข้างสำเร็จรูปครับ งานพ่นจะง่ายหน่อย แห้งเร็วพอสมควร ก็ถือว่าดีทีเดียวครับ ใช้งานตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดี
ส่วนอีกสุตรนึงที่จะหายากหน่อย ก็จะเป็นสูตร 2K ซึ่งก็จะต้องผสมสารเคมีมากกว่า 1ตัว อย่างเช่นสูตรโจตันที่ทางร้านใช้อยู่ ซึ่งจะมีการผสมทินเนอร์หรือน้ำมันสนเข้าไปเพิ่มด้วยด้วยเพื่อให้มันทำปฏิกริยาคลายการจับตัวเพื่อให้เหลวพอจะใส่กาพ่นออกมาเป็นละอองที่ละเอียดได้
ขณะเดียวกันก็จะต้องมีการใส่สารจำพวก Hardener เข้าไปด้วยครับ เพื่อทำปฏิกริยาเร่งแข็ง เพื่อทำให้งานที่พ่นไปแล้วนั้น มีการแข็งตัวเร็วขึ้น เพราะถ้าไม่ผสมสารเคลือบแข็งหรือ Hardener พวกนี้ไปด้วยแล้วล่ะก็ กว่าจะแห้งสนิทนี่ อาจจะใช้เวลาเป็นสิบชั่วโมงได้ทีเดียวครับ
จะเห็นได้ชัดเลยว่า สูตร 2K นั้น จะมีการทำงานที่ค่อนข้างจะซับซ้อนกว่าสูตรน้ำกว่ามากครับ
สาเหตุหลักๆก็เพื่อความแข็งแรงทนทานนั่นเอง
เพราะสูตร 2K นี้ ถ้าพ่นไปแล้วเกิน 48 ชม. ส่วนใหญ่จะแทบล้างออกไม่ได้เลยทีเดียวครับ เพราะแข็งมากมายจริงๆ (ส่วนใหญ่จะแข็งกว่าสูตรน้ำครับ)
แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้งานเองด้วยครับ
ว่าชอบในการใช้งานของสูตรไหนมากกว่ากันครับผม
ซึ่งโดยสรุปแล้ว
ทั้งสองสูตรนั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหรือความชื้นหลังจากพ่นเลยครับ
เพราะมันค่อนข้างกันน้ำกันเปียกได้ดีอยู่แล้วจริงๆ
เว้นแต่กรณีเดียวคือ
พ่นเสร็จปุ๊บ ก็ขับรถออกไปเลยทันที อันนี้อาจจะลุยฝนแล้วทำให้ผิวงานพ่นเกิดการปนเปื้อนได้บ้างครับ
ที่จะเจอบ่อยๆ ก็เช่นงานพ่นจากอู่ทั่วๆไป ที่หลังพ่นเสร็จ ก็รีบส่งรถให้ลูกค้าเลย เน้นพ่นหลายๆคันต่อวัน พ่นเสร็จคันนึง รีบส่งรถลูกค้า แล้วพ่นคันต่อไปต่อทันที
จริงๆแล้ว ถ้าเป็นงานที่ละเอียดหน่อย จะมีการเก็บงานหลังจากพ่นเสร็จแล้วด้วยนะครับ การเก็บละอองสีที่ปลิวมาโดนข้างตัวรถขณะพ่นนั้นก็สำคัญครับ ต้องมีการเก็บละอองน้ำยาด้วย ซึ่งการเก็บงานตรงนี้เอง จะช่วยให้สีพ่นนั้นมีเวลาที่ได้จับตัวแห้งมากขึ้นด้วยครับ
ก็ต้องลองๆศึกษาดูนะครับ สอบถามกันดูดีๆว่า แต่ละที่นั้นมีการเตรียมผิวงานก่อนพ่นหรือเก็บงานหลังพ่นอย่างไรบ้างครับ
หากสนใจงานพ่นกันสนิม สามารถติดต่อผมได้ที่เบอร์ 064-4545-951 ได้เลยครับผม
หรือไปที่ลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
>>>
พ่นกันสนิม ศรีราชา ชลบุรี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น