ทำไม รถเรา ล้างเสร็จแล้ว ไม่เงาเหมือนรถคนอื่น...? (ชิลคาร์แคร์ พ่นกันสนิม เคลือบแก้ว ศรีราชา ชลบรี)

หลายๆท่านคงเคยเจอคำถามคล้ายๆกับข้างต้นนะครับ ว่าทำไมรถเราถึงไม่เงา ไม่ใส เท่ากับรถคนอื่น รถเพื่อน รถญาติ บางคันแทบไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมจอดข้างๆรถเราถึงได้ดูเงาดูสวยจังเลยหนอ...??

จริงๆก็มีหลายสาเหตุปัจจัยนะครับ ที่ทำให้รถแต่ละคัน เงาไม่เท่ากัน ผมจะพูดถึงประเด็นหลักๆไปตามความเห็นและประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองก่อนละกันนะครับผม ^^

1) คุณภาพของแลกเกอร์
บนผิวรถแต่ละคันนั้น นอกจากสีรถที่ถูกพ่นมาจากโรงงานแล้ว ก็ยังมีชั้นแลกเกอร์อยู่ด้วยครับ มันถูกพ่นทับอยู่บนชั้นสีของรถ ซึ่งชั้นสีของรถนั้น จริงๆมันไม่ได้เงาอะไรมากครับ ตัวที่ทำให้รถเราเงางามจริงๆคือชั้นแลกเกอร์มากกว่า ซึ่งรถใหม่ๆ ชั้นแลกเกอร์ก็จะใหม่ตามไปด้วย เมื่อชั้นแลกเกอร์ใหม่ มันก็เหมือนเรามีชั้นเคลือบเงาที่แข็งแรง เรียบเนียน ลื่น สวยงามครับ

แต่แน่นอน เมื่อเราใช้งานมันไปนานๆเข้า ก็ย่อมจะต้องเกิดการสึกหรอครับ ชั้นแลกเกอร์ที่เรียบๆ ก็จะกลายเป็นไม่เรียบ เพราะฝุ่นละอองในอากาศ เศษหินดินทรายที่มากระทบผิวรถเราขณะขับขี่ ยิ่งรถเร็ว ก็ยิ่งเกิดแรงปะทะมากขึ้น แต่ก็นั่นล่ะครับ รถซื้อมาก็เอาไว้ขับ จะให้ค่อยๆขับไปเรื่อยๆชมวิวตลอดเวลาก็คงไม่ใช่ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้คงจะเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นไม่ได้ แต่ก็นั่นล่ะครับ รถในตลาดมีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น แต่ละรุ่น ก็จะมีความหนาของชั้นแลกเกอร์และคุณภาพจากโรงงานผลิตที่ไม่เท่ากันครับ เพราะฉะนั้น บางที อาจจะต้องเข้าใจเรื่องนี้ไว้ส่วนนึงก่อนที่จะเปรียบเทียบแบบกว้างๆว่า ทำไมรถเราไม่เงาเท่าเขา

สาเหตุหนึ่งก็มาจากแลกเกอร์นี่ล่ะครับ

แต่เอ.... เรามีวิธีแก้หรือป้องกันมันบ้างไหมนะ ไอ้เรื่องแลกเกอร์ไม่เรียบเนียนจากการใช้งานนี่...?

คำตอบคือ "มีครับ"

การแก้ไข หลักๆเลยคือ "ขัดสีรถ" ครับผม การขัดสีจะช่วยในเรื่องของการปรับสภาพแลกเกอร์ที่ไม่เรียบ ให้เรียบขึ้นได้ครับ
โดยการขัดสีนี้ ไม่ได้ไปขัดโดนตัวสีโดยตรงนะครับ แต่จะไปขัดที่ชั้นแลกเกอร์ครับ เพื่อปรับสภาพให้ชั้นแลกเกอร์นั้นเรียบเนียนขึ้นนั่นเองครับ ทีนี้ รถเราก็จะเงาใสเหมือนใหม่ได้ไม่ยากครับ

ถ้าวิธีที่ยากและแพงกว่านี้ ก็จะเป็นการ "ทำสีรถใหม่" นั่นเองครับ ถ้ารอยต่างๆบนรถเรามันเยอะและมาลึกมากจนขัดสีไม่ไหวแล้ว ก็นำรถไปประเมินราคาที่อู่รถ หรือจะเคลมประกันก็ได้เลย ตามแต่สะดวกครับผม ^^

2) คุณภาพในการล้างรถ
สมัยนี้ เทคโนโลยีเรื่องเคมีเกี่ยวกับงานล้างรถและงานฟื้นฟูสภาพผิวรถ ไปไกลกว่าแต่ก่อนมากๆครับ แต่ก็แน่นอน เป็นความรู้เฉพาะกลุ่ม ที่อาจต้องศึกษาสักพอประมาณ ถึงจะทราบความแตกต่างของผลิตภัณฑ์แต่ละยี่ห้อได้

การล้างรถ ถ้าเป็นแต่ก่อน ก็อาจจะไม่ซับซ้อนนัก ใช้แชมพูล้างรถกับฟองน้ำธรรมดา ก็ถือว่า ล้างรถสะอาดได้แล้วครับ

แต่เดี๋ยวนี้ น่าจะพัฒนาไปไกลกว่านั้นมากครับ
เราได้ทราบว่า การล้างรถนั้น มีรายละเอียดที่ค่อนข้างจะเยอะมาก เริ่มตั้งแต่ การใช้ฟองน้ำ จะทำให้ผิวแลกเกอร์รถเรานั้นเป็นรอยได้มากกว่าใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าชามัวร์
เพราะฟองน้ำนั้นอมฝุ่นครับ พอเราชุบน้ำในถัง คราบสกปรกก็จะลงไปกองรวมในถังน้ำนั้น พอเราชุบน้ำอีกรอบ มันก็จะติดมาด้วยครับ
การใช้ผ้า จะช่วยลดตรงนี้ได้ไม่มากก็น้อยครับผม

ชนิดและประเภทของผลิตภัณฑ์ล้างรถก็มีผลพอสมควรครับ สมัยนี้มีน้ำยาล้างรถหลายยี่ห้อ ที่นอกจากจะช่วยขจัดคราบได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยในเรื่องอื่นๆด้วย เช่น โฟมล้างรถผสมแว๊กซ์ , โฟมล้างรถผสมคลีนเนอร์ ฯลฯ พวกนี้ก็จะช่วยให้รถเราเงาขึ้นได้อีกระดับนึง โดยที่ไม่ต้องเปลืองแรงมากมายนักครับ ^^

3) การเตรียมผิวและทำความสะอาดหลังล้างรถ
การเตรียมผิว รวมๆแล้วหมายถึง การเตรียมผิวก่อนจะขัดสีรถน่ะครับ หลังจากล้างรถแล้ว ถ้าจะให้ดีกว่าแค่เช็ดแห้ง เราสามารถเพิ่มการทำความสะอาดหลังจากล้างรถได้อีกครับ เช่น การลงคลีนเนอร์ หรือลูบด้วยดินน้ำมัน จะช่วยให้ผิวแลกเกอร์ของรถเรานั้น ดูใสดูใหม่กว่าปกติได้เช่นกันครับผม ^^

4) สารเคลือบเงาผิวรถ
สุดท้าย ที่นิยมกันมากๆเลยก็คือ การลงแว็กซ์ หรือซีลแลนท์นั่นเองครับ หลังจากล้างรถเช็ดแห้งเรียบร้อยแล้ว คนรักรถส่วนมาก ก็มักจะมีการลงแว็กซ์หรือสารเคลือบเงาให้ผิวรถของเรานั้นดูเงาดูใสขึ้นกว่าปกติ ซึ่งก็จะมีวิธีการแตกต่างกันออกไปตามแต่ยี่ห้อและชนิอของผลิตภัณฑ์ครับ
แต่โดยรวมแล้ว ก็คือการลง "สารเคลือบ" นั่นเองครับ หน้าที่ของสารเคลือบพวกนี้ มันจะลงไปเติมเต็มร่องรอยที่ไม่เรียบของแลกเกอร์ให้เรียบขึ้น ขณะทีบางตัวก็ช่วยเพิ่มชั้นความหนาของผิวแลกเกอร์ด้วย ก็จะได้เรื่องการปกป้องขึ้นมาอีกสักนิดนึงครับ แต่แน่นอนครับ พวกงานเคลือบแว็กซ์นี้ ก็คงไม่ได้อยู่ยั้งยืนยง เต็มที่ก็ได้เป็นหลักเดือนครับ ถ้าเบาๆหน่อย 2-3 วันก็หายเกลี้ยงละครับผม

วิธีที่จะทำให้ผิวสีรถเราอยู่ได้นานจริงๆ เงางามนานจริงๆ ส่วนใหญ่ตอนนี้ก็เห็นจะมีแต่เคลือบแก้วนี่ล่ะครับ ที่จะตอบโจทย์ได้ดีกว่างานเคลือบแว็กซ์พอสมควร

แต่ก็แน่นอนครับ ราคาก็ย่อมสูงขึ้นมาด้วยเช่นกันครับผม 

ทั้งนี้ ก็ต้องอยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าของรถแต่ละท่านนะครับ ว่าอยากจะให้รถเรานั้น เงางามแบบไหน ยาวนานแค่ไหนครับ ^^

------------------------------------

หากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่ผมได้ตลอดนะครับ
โทร. 093-545-9828 ครับผม

ชิลคาร์แคร์ ยินดีให้บริการครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

่ท่อไอเสียรถยนต์...ควรต้องพ่นกันสนิมด้วยมั้ย???

ล้างอัดฉีด เป็นผลดีต่อช่วงล่าง จริงหรือไม่..??

ราคาพ่นกันสนิม ช่วงล่างรถยนต์ (ร้านชิลคาร์แคร์ พ่นกันสนิม เคลือบแก้ว ศรีราชา ชลบุรี)