เคลือบแก้ว ราคาถูก และดี มีจริงไหม...????
เคลือบแก้ว หลักหมื่น.... ราคา หลักร้อย...!!!
มีจริงมั้ย?
คุณภาพดีมั้ย?
เชื่อได้หรือเปล่า?
ลองมาอ่านบทความนี้กันดูครับ
---- บทความนี้ ผมเขียนขึ้นเพื่อเป็นทรรศนะ สำหรับท่านที่ต้องการข้อมูล เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เคลือบแก้ว หรือเคลือบเซรามิค ที่ราคาถูกมากๆ ไว้เป็นข้อเปรียบเทียบ อ้างอิง ประกอบการตัดสินใจซื้อ ผมไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวหา ว่าร้าย หรือดูถูกดูหมิ่นใดๆกับผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ทั้งที่อยู่ในบทความนี้ หรือไม่ได้อยู่ก็ตาม --------
เคลือบแก้วหลักหมื่น ราคาหลักร้อย
ช่วงนี้เราอาจจะได้เห็นโฆษณาแนวๆนี้กันบ่อยจริงๆครับ
ไม่แปลกๆ
ต้องบอกว่า เอาจริงๆแล้วนั้น เคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิค
ก็เข้ามาในบ้านเราได้สักพักนึงแล้วครับ
แน่นอน ว่าราคาส่วนใหญ่ที่เราทราบกันดี ก็มีตั้งแต่หลักพัน ยันหลักหมื่น
ถ้าไปดูที่ร้านหรูๆหน่อย ก็อาจจะแตะไปถึงหลักแสนกันได้
ซึ่งนั่นทำให้ ตลาด ผลิตผู้ขายรายใหม่ๆเข้ามา เพื่อสนองต่อ Demand ใหม่ๆที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย
เจ้าของรถทุกคันไม่ได้มีกำลังทรัพย์มากพอจะเคลือบแก้วในราคาที่สูงมากๆได้ แต่ก็อยากจะให้รถตัวเองนั้นเงางาม สีรถอยู่สวยๆไปตลอด
งานเคลือบแก้วราคาถูก จึงได้เข้ามาในตลาดครับ
ซึ่งถ้าถามว่า "ดีมั้ย???"
ผมก็ต้องตอบตามตรงว่า
มีทั้งดีและไม่ดีครับ
บอกก่อนว่า ด้วยความที่ผมทำคาร์แคร์มาเองนั้น ก็ได้ลองซื้อสินค้าราคาถูกเหล่านี้มาหลายตัวแล้ว (ราคาถูกที่ว่า ก็ตั้งแต่หลักร้อย ยันหลักพันนิดๆ)
เอามาลองใช้งานดู เคลือบรถตัวเองบ้าง เคลือบรถลูกน้องพนักงานในร้านบ้าง เคลือบนั่นเคลือบนี่ เหรียญบาทก็ยังลองเคลือบมาแล้วครับ ก็ได้ข้อสรุปบางส่วน ที่สามารถมาแชร์ให้ทุกท่านได้ฟังกันได้เป็นบทความนี้นั่นเองครับ
เคลือบแก้วราคาถูก ตัวที่คุณภาพดี คือ "สมราคา" ครับ
ต้องบอกว่า มันคือเคลือบแก้วจริงๆนั่นแหละ เพราะรู้สึกว่าจะผสมซิลิกาเข้ามาในน้ำยา ปริมาณหนึ่ง ไม่ได้เยอะมากนัก และก็ไม่ได้เข้มข้นมาก ไม่ได้บริสุทธิ์มาก แต่ก็น่าจะเป็นซิลิกาแน่นอน
พอเราลองเคลือบไป เออ...มันมีฟิล์มเคลือบแก้วจริงนะ
แต่มันก็บางมาก และไม่ได้แข็งแรงทนทานเท่าไหร่ ประมาณเดือนนิดๆก็เริ่มลอกเริ่มบางลงไปแล้ว
ถ้าเอามาเคลือบเหรียญบาทนี่ไม่ต้องสืบกันเลยครับ อยู่ได้ไม่นานจริงๆ ยิ่งถ้าเหรียญเราไม่สะอาดด้วยแล้ว แป็บเดียว เคลือบแก้วหลุดหาย แตกร่อน เป็นผงๆก็มีครับ
ส่วนตัวน้ำยาเคลือบแก้วที่ไม่ดี
อันนี้ไม่ต้องสืบเลยครับ
เคลือบไม่ติด ไม่แข็ง ไม่ทน เช็ดออกเลยทันที เหมือนแว็กซ์น้ำเหนียวๆมากกว่าเคลือบแก้ว ฯลฯ ไม่รู้ว่ามีซิลิกาจริงๆอยู่ในนั้นด้วยหรือเปล่า
(อนึ่ง....ซิลิกา คือสารประกอบที่มักจะอยู่ในน้ำยาเคลือบแก้วสมัยนี้กันค่อนข้างเยอะครับ แต่ก่อนจะเป็นพวกเคมีตระกูลเซรามิค แต่ซิลิกามันมีความยืดหยุ่นสูงกว่า ก็เลยถูกพัฒนาต่อยอดได้มากกว่าเคลือบเซรามิค แต่ด้วยความติดปาก ส่วนใหญ่ก็ยังเรียกว่าเคลือบเซรามิคกันอยู่นั่นเองครับ)
----------
ทีนี้ กลับมาประเด็นแรก ที่ว่า เคลือบแก้วราคาหลักร้อย ดีจริงหรือเปล่า?
คำตอบคือ "ดีได้ครับ" ถ้าคุณภาพน้ำยานั้นสูงเพียงพอ
แต่......
การที่เราเลือกน้ำยาราคาถูก ย่อมต้องหมายถึง คุณภาพที่อาจจะไม่ได้สูงมากนัก ตามมาด้วยเช่นกัน
ของดีไม่เคยมีของถูก..... เป็นส่วนที่มีความจริงอยู่ครับ
แล้วทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ....??
---------------
ถ้าทุกคนลองเปิดเฟซบุค แล้ว search หาสินค้าเคลือบแก้ว หรือน้ำยาเคลือบแก้ว ราคาถูกๆหน่อย หลักร้อย
จะเห็นได้ไม่ยากเลยครับ ว่ามีหลายแบรนด์ หลายยี่ห้อมากๆ ชื่อก็แตกต่างกันออกไป
แต่....
ถ้าลองซื้อมาดูหลายๆขวด อาจจะได้พบเหมือนกับผมว่า น้ำยาหลายยี่ห้อนั้น ค่อนข้างจะมีบางอย่าง "เหมือนกัน" มากทีเดียวครับ
แน่นอนว่า ชื่อยี่ห้อ อาจจะไม่เหมือน สีขวด หน้าตากล่อง อาจจะไม่เหมือน แต่..... บางอย่างเหมือนกันมากครับ เช่น คู่มือ แมนนวลการใช้งาน หรือแม้แต่หน้าเพจ
บางครั้ง สองยี่ห้อ แต่กลับมีรูปรีวิวรูปเดียวกันได้ซะนี่
นั่นแปลว่าอะไรครับ?
----------
แปลว่า จริงๆแล้วตอนนี้ เรามีผู้ผลิตเคลือบแก้วราคาถูก ที่สามารถผลิตเคลือบแก้วโดยเปลี่ยนแพคเกจ บรรจุภัณฑ์ และชื่อยี่ห้อ โดยให้ผู้ขายรายย่อย สามารถนำไปทำตลาดได้เอง
คล้ายๆครีมบำรุงผิว สกินแคร์เลยใช่ไหมครับ
จริงๆเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ใหม่มากนัก แต่ก็ต้องบอกว่า ยิ่งราคาถูก สินค้าก็มีความเสี่ยงที่จะคุณภาพลดลงไปตามราคา
เหมือนครีมที่ถ้าราคาถูกมากๆ ก็อาจจะได้สารเคมีที่คุณภาพต่ำตามไปด้วย
ผมคงไม่พูดว่า เคมีแต่ละตัวนั้น ได้คุณภาพหรือไม่นะครับ
เพราะน้ำยาเคลือบแก้วนั้น ไม่เหมือนผลิตภัณฑ์พวกสกินแคร์ ที่ต้องมี อย. เพื่อดูแลผู้บริโภค
เต็มที่ น้ำยาเคลือบแก้ว ก็อาจจะมี มอก. แต่นั่นก็คงจะยาก ถ้าหากต้องการรู้ว่าเคลือบแก้วนั้นได้คุณภาพสูงหรือไม่ และแน่นอนว่า อันตรายที่อาจจะเกิดกับผู้ใช้รถนั้น ค่อนข้างพิสูจน์ได้ยากอีกด้วย
----------------
ดังนั้น ผมคงจะไม่ได้บอกว่า เคลือบแก้วราคาถูกนั้น เลวร้าย
แต่แค่จะบอกว่า มันมีอะไรมากกว่าของที่ "ราคาถูก"
คือ การจะให้รถสักคันนั้น ใสวิ๊ง เนียนกริ๊บ เงาสุดยอดได้ล่ะก็.... มันไม่ได้ง่ายๆแค่การเอาน้ำยาเคลือบแก้วมาเคลือบที่ผิวรถแล้วจะเงาวิ๊งได้เลย
แต่มันต้องมีการเตรียมผิวชิ้นงานของรถก่อน
และต้องเตรียมอย่างดีเสียด้วย
ไม่ใช่แค่เช็ดๆ ลงแว๊กซ์ แล้วก็เคลือบแก้วได้เลย
ซึ่งหากเตรียมผิวไม่ดี หรือทำอย่างผิดวิธี ก็อาจจะส่งผลให้เคลือบแก้วนั้น ติดไม่ทน ติดไม่นาน ลอกเร็ว หรือด้อยคุณภาพในระยะยาวได้
นี่ยังไม่รวมเรื่องคุณภาพของเคลือบแก้ว ตามที่ผมได้พิมพ์ไปด้านบนนะครับ
--------------
เพราะฉะนั้น ถ้าพูดถึงเคลือบแก้วคุณภาพดีแล้วล่ะก็
มักจะต้องมีองค์ประกอบสำคัญหลักๆคือ
"การเตรียมผิว" และ "คุณภาพของน้ำยาเคลือบแก้ว"
ซึ่งสองอย่างนี้ จะด้อยคุณภาพไปไม่ได้เลย
การขายน้ำยาเคลือบแก้วราคาถูก
แน่นอนว่าผู้ซื้อ ก็ได้น้ำยาเคลือบแก้วไป
แต่.... ทุกคนมักจะไม่รู้วิธีเตรียมผิวอย่างถูกวิธี
ซึ่งผู้ผลิตสินค้าเคลือบแก้ว ก็มักจะไม่ได้บอก และวิธีการก็ค่อนข้างจะมีหลากหลายอีกด้วย
ส่วนการที่ผู้ขายนั้น ได้รูปรถที่เงางาม สวยคมกริบ เอามาลงเพจได้อย่างไรนั้น
อันนี้คงต้องบอกว่า อยู่ที่วิธีทางการตลาดของแต่ละยี่ห้อครับ
ซึ่งบางครั้งอาจจะมีบ้าง ที่มีการใช้ลูกเพจ หรือคนรู้จัก หรือเฟซอวตาร มาลงรีวิว สร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งในแง่การตลาด ก็อาจจะไม่ได้ผิดมากเท่าไหร่นัก
แต่....
หากลูกค้าไม่ได้มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องของเคลือบแก้ว และการเตรียมผิวอย่างละเอียด ประมาณนึงแล้ว
ค่อนข้างจะยากเลยทีเดียวครับ ที่จะได้รถที่เงาฉ่ำ สวยคม เนียนกริ๊บ เหมือนรูปโฆษณา ที่ส่วนมาก ผู้ขายก็มักจะมีวิธีเตรียมผิวที่ไม่ได้บอกลูกค้าอยู่ เยอะเลยทีเดียวครับผม ^^
------------------
ดังนั้น ก่อนจะเสียเงินเล็กน้อย เพื่อหวังผลที่งดงาม ในราคาที่คิดว่าจะถูกเหลือเชื่อ ก็ต้องระวังกันนิดส์...นึงนะครับ
เกรงว่า เดี๋ยวจะเข้าลักษณะ
"เสียน้อยเสียยาก....เสียมากเสียง่าย" ไปซะก่อนนะครับผม ^^
สุดท้าย กลายเป็น ซื้อของราคาถูกมา กลับไม่ได้ผลอย่างที่คิด
ก็ เอา...ไม่เป็นไร ถือว่าราคาถูก ทิ้งได้ สบายใจ
แต่.... ลูกค้าที่ไม่เคยเคลือบแก้ว ก็อาจจะพลาดโอกาสที่จะได้รถเงา สวย สมใจไปได้ครับ
ที่สำคัญ....มากๆ.....
ก็คือ เรื่อง "การบริการหลังการขาย" ด้วยนั่นเองครับผม
ซึ่งเรื่องนี้ ก็จำเป็นมากๆเช่นเดียวกันครับ
ไว้มีโอกาส เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังต่ออีกนะครับผม ^^
----------------
ท่านใดสนใจ ข้อมูลเพิ่มเติม
ต้องการติดต่อสอบถาม
สามารถ โทรมาได้เลยที่ 064-4545-951 นะครับผม
หรือจะเข้าไปดูผลงานของเราที่เพจ facebook ก็ไปได้เลยครับ
ที่นี่เลย...>>>>
https://www.facebook.com/chillcarcare/
ขอให้ได้รถสวย เงางาม สำราญใจทุกท่านนะคร้าบบบบบ ^^
มีจริงมั้ย?
คุณภาพดีมั้ย?
เชื่อได้หรือเปล่า?
ลองมาอ่านบทความนี้กันดูครับ
---- บทความนี้ ผมเขียนขึ้นเพื่อเป็นทรรศนะ สำหรับท่านที่ต้องการข้อมูล เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เคลือบแก้ว หรือเคลือบเซรามิค ที่ราคาถูกมากๆ ไว้เป็นข้อเปรียบเทียบ อ้างอิง ประกอบการตัดสินใจซื้อ ผมไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวหา ว่าร้าย หรือดูถูกดูหมิ่นใดๆกับผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ทั้งที่อยู่ในบทความนี้ หรือไม่ได้อยู่ก็ตาม --------
เคลือบแก้วหลักหมื่น ราคาหลักร้อย
ช่วงนี้เราอาจจะได้เห็นโฆษณาแนวๆนี้กันบ่อยจริงๆครับ
ไม่แปลกๆ
ต้องบอกว่า เอาจริงๆแล้วนั้น เคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิค
ก็เข้ามาในบ้านเราได้สักพักนึงแล้วครับ
แน่นอน ว่าราคาส่วนใหญ่ที่เราทราบกันดี ก็มีตั้งแต่หลักพัน ยันหลักหมื่น
ถ้าไปดูที่ร้านหรูๆหน่อย ก็อาจจะแตะไปถึงหลักแสนกันได้
ซึ่งนั่นทำให้ ตลาด ผลิตผู้ขายรายใหม่ๆเข้ามา เพื่อสนองต่อ Demand ใหม่ๆที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย
เจ้าของรถทุกคันไม่ได้มีกำลังทรัพย์มากพอจะเคลือบแก้วในราคาที่สูงมากๆได้ แต่ก็อยากจะให้รถตัวเองนั้นเงางาม สีรถอยู่สวยๆไปตลอด
งานเคลือบแก้วราคาถูก จึงได้เข้ามาในตลาดครับ
ซึ่งถ้าถามว่า "ดีมั้ย???"
ผมก็ต้องตอบตามตรงว่า
มีทั้งดีและไม่ดีครับ
บอกก่อนว่า ด้วยความที่ผมทำคาร์แคร์มาเองนั้น ก็ได้ลองซื้อสินค้าราคาถูกเหล่านี้มาหลายตัวแล้ว (ราคาถูกที่ว่า ก็ตั้งแต่หลักร้อย ยันหลักพันนิดๆ)
เอามาลองใช้งานดู เคลือบรถตัวเองบ้าง เคลือบรถลูกน้องพนักงานในร้านบ้าง เคลือบนั่นเคลือบนี่ เหรียญบาทก็ยังลองเคลือบมาแล้วครับ ก็ได้ข้อสรุปบางส่วน ที่สามารถมาแชร์ให้ทุกท่านได้ฟังกันได้เป็นบทความนี้นั่นเองครับ
เคลือบแก้วราคาถูก ตัวที่คุณภาพดี คือ "สมราคา" ครับ
ต้องบอกว่า มันคือเคลือบแก้วจริงๆนั่นแหละ เพราะรู้สึกว่าจะผสมซิลิกาเข้ามาในน้ำยา ปริมาณหนึ่ง ไม่ได้เยอะมากนัก และก็ไม่ได้เข้มข้นมาก ไม่ได้บริสุทธิ์มาก แต่ก็น่าจะเป็นซิลิกาแน่นอน
พอเราลองเคลือบไป เออ...มันมีฟิล์มเคลือบแก้วจริงนะ
แต่มันก็บางมาก และไม่ได้แข็งแรงทนทานเท่าไหร่ ประมาณเดือนนิดๆก็เริ่มลอกเริ่มบางลงไปแล้ว
ถ้าเอามาเคลือบเหรียญบาทนี่ไม่ต้องสืบกันเลยครับ อยู่ได้ไม่นานจริงๆ ยิ่งถ้าเหรียญเราไม่สะอาดด้วยแล้ว แป็บเดียว เคลือบแก้วหลุดหาย แตกร่อน เป็นผงๆก็มีครับ
ส่วนตัวน้ำยาเคลือบแก้วที่ไม่ดี
อันนี้ไม่ต้องสืบเลยครับ
เคลือบไม่ติด ไม่แข็ง ไม่ทน เช็ดออกเลยทันที เหมือนแว็กซ์น้ำเหนียวๆมากกว่าเคลือบแก้ว ฯลฯ ไม่รู้ว่ามีซิลิกาจริงๆอยู่ในนั้นด้วยหรือเปล่า
(อนึ่ง....ซิลิกา คือสารประกอบที่มักจะอยู่ในน้ำยาเคลือบแก้วสมัยนี้กันค่อนข้างเยอะครับ แต่ก่อนจะเป็นพวกเคมีตระกูลเซรามิค แต่ซิลิกามันมีความยืดหยุ่นสูงกว่า ก็เลยถูกพัฒนาต่อยอดได้มากกว่าเคลือบเซรามิค แต่ด้วยความติดปาก ส่วนใหญ่ก็ยังเรียกว่าเคลือบเซรามิคกันอยู่นั่นเองครับ)
----------
ทีนี้ กลับมาประเด็นแรก ที่ว่า เคลือบแก้วราคาหลักร้อย ดีจริงหรือเปล่า?
คำตอบคือ "ดีได้ครับ" ถ้าคุณภาพน้ำยานั้นสูงเพียงพอ
แต่......
การที่เราเลือกน้ำยาราคาถูก ย่อมต้องหมายถึง คุณภาพที่อาจจะไม่ได้สูงมากนัก ตามมาด้วยเช่นกัน
ของดีไม่เคยมีของถูก..... เป็นส่วนที่มีความจริงอยู่ครับ
แล้วทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ....??
---------------
ถ้าทุกคนลองเปิดเฟซบุค แล้ว search หาสินค้าเคลือบแก้ว หรือน้ำยาเคลือบแก้ว ราคาถูกๆหน่อย หลักร้อย
จะเห็นได้ไม่ยากเลยครับ ว่ามีหลายแบรนด์ หลายยี่ห้อมากๆ ชื่อก็แตกต่างกันออกไป
แต่....
ถ้าลองซื้อมาดูหลายๆขวด อาจจะได้พบเหมือนกับผมว่า น้ำยาหลายยี่ห้อนั้น ค่อนข้างจะมีบางอย่าง "เหมือนกัน" มากทีเดียวครับ
แน่นอนว่า ชื่อยี่ห้อ อาจจะไม่เหมือน สีขวด หน้าตากล่อง อาจจะไม่เหมือน แต่..... บางอย่างเหมือนกันมากครับ เช่น คู่มือ แมนนวลการใช้งาน หรือแม้แต่หน้าเพจ
บางครั้ง สองยี่ห้อ แต่กลับมีรูปรีวิวรูปเดียวกันได้ซะนี่
นั่นแปลว่าอะไรครับ?
----------
แปลว่า จริงๆแล้วตอนนี้ เรามีผู้ผลิตเคลือบแก้วราคาถูก ที่สามารถผลิตเคลือบแก้วโดยเปลี่ยนแพคเกจ บรรจุภัณฑ์ และชื่อยี่ห้อ โดยให้ผู้ขายรายย่อย สามารถนำไปทำตลาดได้เอง
คล้ายๆครีมบำรุงผิว สกินแคร์เลยใช่ไหมครับ
จริงๆเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ใหม่มากนัก แต่ก็ต้องบอกว่า ยิ่งราคาถูก สินค้าก็มีความเสี่ยงที่จะคุณภาพลดลงไปตามราคา
เหมือนครีมที่ถ้าราคาถูกมากๆ ก็อาจจะได้สารเคมีที่คุณภาพต่ำตามไปด้วย
ผมคงไม่พูดว่า เคมีแต่ละตัวนั้น ได้คุณภาพหรือไม่นะครับ
เพราะน้ำยาเคลือบแก้วนั้น ไม่เหมือนผลิตภัณฑ์พวกสกินแคร์ ที่ต้องมี อย. เพื่อดูแลผู้บริโภค
เต็มที่ น้ำยาเคลือบแก้ว ก็อาจจะมี มอก. แต่นั่นก็คงจะยาก ถ้าหากต้องการรู้ว่าเคลือบแก้วนั้นได้คุณภาพสูงหรือไม่ และแน่นอนว่า อันตรายที่อาจจะเกิดกับผู้ใช้รถนั้น ค่อนข้างพิสูจน์ได้ยากอีกด้วย
----------------
ดังนั้น ผมคงจะไม่ได้บอกว่า เคลือบแก้วราคาถูกนั้น เลวร้าย
แต่แค่จะบอกว่า มันมีอะไรมากกว่าของที่ "ราคาถูก"
คือ การจะให้รถสักคันนั้น ใสวิ๊ง เนียนกริ๊บ เงาสุดยอดได้ล่ะก็.... มันไม่ได้ง่ายๆแค่การเอาน้ำยาเคลือบแก้วมาเคลือบที่ผิวรถแล้วจะเงาวิ๊งได้เลย
แต่มันต้องมีการเตรียมผิวชิ้นงานของรถก่อน
และต้องเตรียมอย่างดีเสียด้วย
ไม่ใช่แค่เช็ดๆ ลงแว๊กซ์ แล้วก็เคลือบแก้วได้เลย
ซึ่งหากเตรียมผิวไม่ดี หรือทำอย่างผิดวิธี ก็อาจจะส่งผลให้เคลือบแก้วนั้น ติดไม่ทน ติดไม่นาน ลอกเร็ว หรือด้อยคุณภาพในระยะยาวได้
นี่ยังไม่รวมเรื่องคุณภาพของเคลือบแก้ว ตามที่ผมได้พิมพ์ไปด้านบนนะครับ
--------------
เพราะฉะนั้น ถ้าพูดถึงเคลือบแก้วคุณภาพดีแล้วล่ะก็
มักจะต้องมีองค์ประกอบสำคัญหลักๆคือ
"การเตรียมผิว" และ "คุณภาพของน้ำยาเคลือบแก้ว"
ซึ่งสองอย่างนี้ จะด้อยคุณภาพไปไม่ได้เลย
การขายน้ำยาเคลือบแก้วราคาถูก
แน่นอนว่าผู้ซื้อ ก็ได้น้ำยาเคลือบแก้วไป
แต่.... ทุกคนมักจะไม่รู้วิธีเตรียมผิวอย่างถูกวิธี
ซึ่งผู้ผลิตสินค้าเคลือบแก้ว ก็มักจะไม่ได้บอก และวิธีการก็ค่อนข้างจะมีหลากหลายอีกด้วย
ส่วนการที่ผู้ขายนั้น ได้รูปรถที่เงางาม สวยคมกริบ เอามาลงเพจได้อย่างไรนั้น
อันนี้คงต้องบอกว่า อยู่ที่วิธีทางการตลาดของแต่ละยี่ห้อครับ
ซึ่งบางครั้งอาจจะมีบ้าง ที่มีการใช้ลูกเพจ หรือคนรู้จัก หรือเฟซอวตาร มาลงรีวิว สร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งในแง่การตลาด ก็อาจจะไม่ได้ผิดมากเท่าไหร่นัก
แต่....
หากลูกค้าไม่ได้มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องของเคลือบแก้ว และการเตรียมผิวอย่างละเอียด ประมาณนึงแล้ว
ค่อนข้างจะยากเลยทีเดียวครับ ที่จะได้รถที่เงาฉ่ำ สวยคม เนียนกริ๊บ เหมือนรูปโฆษณา ที่ส่วนมาก ผู้ขายก็มักจะมีวิธีเตรียมผิวที่ไม่ได้บอกลูกค้าอยู่ เยอะเลยทีเดียวครับผม ^^
------------------
ดังนั้น ก่อนจะเสียเงินเล็กน้อย เพื่อหวังผลที่งดงาม ในราคาที่คิดว่าจะถูกเหลือเชื่อ ก็ต้องระวังกันนิดส์...นึงนะครับ
เกรงว่า เดี๋ยวจะเข้าลักษณะ
"เสียน้อยเสียยาก....เสียมากเสียง่าย" ไปซะก่อนนะครับผม ^^
สุดท้าย กลายเป็น ซื้อของราคาถูกมา กลับไม่ได้ผลอย่างที่คิด
ก็ เอา...ไม่เป็นไร ถือว่าราคาถูก ทิ้งได้ สบายใจ
แต่.... ลูกค้าที่ไม่เคยเคลือบแก้ว ก็อาจจะพลาดโอกาสที่จะได้รถเงา สวย สมใจไปได้ครับ
ที่สำคัญ....มากๆ.....
ก็คือ เรื่อง "การบริการหลังการขาย" ด้วยนั่นเองครับผม
ซึ่งเรื่องนี้ ก็จำเป็นมากๆเช่นเดียวกันครับ
ไว้มีโอกาส เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังต่ออีกนะครับผม ^^
----------------
ท่านใดสนใจ ข้อมูลเพิ่มเติม
ต้องการติดต่อสอบถาม
สามารถ โทรมาได้เลยที่ 064-4545-951 นะครับผม
หรือจะเข้าไปดูผลงานของเราที่เพจ facebook ก็ไปได้เลยครับ
ที่นี่เลย...>>>>
https://www.facebook.com/chillcarcare/
ขอให้ได้รถสวย เงางาม สำราญใจทุกท่านนะคร้าบบบบบ ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น