"ขัดสี" กับ "เคลือบสี" ต่างกันยังไง?
วันนี้ ว่าด้วยเรื่องงาน "ขัดสี" กับ "เคลือบสี" ครับ... มาดูกัน ว่ามันต่างกันยังไง?
ลูกค้าหลายคน ยังมีเรียกกันผิดอยู่บ้าง
ระหว่างานงาน "ขัดสี" (Polishing) กับงาน "เคลือบสี" หรือ "เคลือบเงา" (Waxing / Coating)
...
จริงๆถ้าเอาด้วยชื่อ มันก็ต่างกันสุดขั้วอยู่แล้วครับ
งานเคลือบสีหรือเคลือบเงานั้น คือการ "เพิ่ม" เติมเข้าไปบนผิวสีของรถ
คือเราใช้แว๊กซ์หรือซิลิโคน ที่มีทั้งสารเพิ่มความเงา สารยึดเกาะ ลดแรงตึงผิว ฯลฯ ลงไปที่ผิวรถเราครับ
มันมีหน้าที่ ช่วยปกป้อง ป้องกันสิ่งสกปรก ที่จะมาติดรถเรา ให้โดนพวกแว๊กซ์เหล่านี้ก่อน
แว๊กซ์ส่วนมาก มีส่วนผสมของคาร์นูบา หรือสารตระกูล Wax ชนิดหนึ่ง คล้ายๆไขขี้ผึ้ง จะมันๆหน่อย ติดมือแล้วเหนียวนิดๆ ไม่ละลายน้ำ
หลายๆตัวจะมีสารเพิ่มความเงา ผสมเข้าไปด้วย
....
ส่วนงาน "ขัดสี" หรือ Polishing นั้น ตรงกันข้ามเลยครับ
งานขัด คือการ "เอาออก" หรือก็คือ การขัดผิวหน้าออก เพื่อทำให้ผิวมันเรียบตรงขึ้นนั่นเอง
หรือพูดง่ายๆก็คือ ทำให้ผิวหน้าที่ไม่เรียบนั้น หายไปครับ แน่นอนว่า มันต้องบางลงแน่นอน...
...
ทีนี้ ปัญหาคืออะไรกันล่ะ?
ปัญหาที่ลูกค้าเจอก็คือ...
เมื่อลูกค้าส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า งานขัดสี กับเคลือบสี นั้นต่างกัน
แล้วบางร้านบอกว่าคล้ายกัน หรือเหมือนกัน
มันก็ผิดไปแต่แรกแล้วครับ
เพราะถ้าลูกค้าไม่รู้ อยากให้รถเงา แล้วไปทำงานขัดสี
สิ่งที่ได้คือ รถเงาจริงครับ
แต่ชั้นแลคเกอร์บนผิวหน้ารถ จะบางลงไปเรื่อยๆ
เพราะงานขัด ใช้น้ำยาที่มีผงขัดครับ มันเป็นอนูเล็กๆ ที่เมื่อสัมผัสกับผิวรถแล้ว ก็จะขัดผิวชั้นบนของแลคเกอร์รถออกได้ ทำให้รถดูเรียบเนียนขึ้น เงาขึ้น
แต่ถ้าทำบ่อยๆ รับรองว่า แลคเกอร์บางลงจนสีหมดความเงาไปได้เลยแน่ๆ
...
พอดีผมเพิ่งได้คุยกับลูกค้าท่านหนึ่งมา
เขาบอกว่า รถเขาเคลือบสีทุกอาทิตย์เลย (เคลือบจากร้านอื่นนะครับ ไม่ได้เคลือบร้านผม)
แต่พอจะไปเคลือบครั้งล่าสุด ทางร้านนั้นบอกว่า
"รถพี่ไม่แนะนำให้เคลือบอีกแล้วนะครับ เพราะแลคเกอร์มันบางมากแล้ว เคลือบอีกจะทำให้แลคเกอร์บางจนเสียหายได้"
ลูกค้าก็เลยงง มาถามผมว่ามันคืออะไร?
ผมก็เลยอธิบายไปว่า
บางร้านอาจจะแจ้งลูกค้าไม่หมดครับ
ว่างานเคลือบสีนั้น ส่วนประกอบที่ใช้หลักๆคือ
"น้ำยาเคลือบสี" กับ "ฟองน้ำหรืออุปกรณ์เคลือบ"
ซึ่งทั้ง 2 อย่าง ต้องไม่มีอะไรใกล้เคียงกับงานขัดสีครับ
ปัญหาของลูกค้าคือ ใช้น้ำยายี่ห้อแพงเจ้าหนึ่ง
ซึ่งผมเดาว่า น่าจะมีผงขัดผสมอยู่ในนั้นด้วย
เวลาที่ลงน้ำยาไปบนฟองน้ำ แล้วปั่นบนผิวรถเพื่อเคลือบสี มันก็เลยไปทำการขัดผิวสีด้านบนออกด้วย ทำให้รถเงาก็จริง แต่ก็บางลงเรื่อยๆด้วยเช่นกันนั่นเองครับ
ลูกค้าเลยเอาขวดน้ำยามาให้ผมดู
ผมก็ตอบได้เลยทันทีว่า
"มีผงขัดในนี้แน่นอนครับพี่"
เพราะตัวน้ำยานั้นจับแข็งจนเป็นก้อนเลย
พอจะใช้งาน ก็อาจต้องเอาไปผสมน้ำ
แต่อย่าลืมว่า สารตั้งต้นของมันคือของแข็งครับ
ผสมน้ำยังไง ละลายยังไง มันก็คือของแข็งเม็ดเล็กๆอยู่ดี
และถ้ามันเป็นน้ำยาเคลือบสี มันจะไม่ได้แข็งแบบนี้ครับ
เต็มที่ น้ำยาเคลือบสีเคลือบเงา หากทิ้งไว้ให้แห้งหรือตากแดดตากลมนานๆ
มันจะเป็นของเหลว เหนียวๆข้นๆมากกว่า ถ้าทิ้งไว้เฉยๆ มันจะแยกชั้นหนืดกับใส (ไม่ใช่ทุกยี่ห้อนะครับ)
แต่หลักๆคือ เนื้อสัมผัส มันจะไม่มีส่วนใดที่แข็ง
หรือไม่มี "ผงสครับ" นั่นเองครับ
ลองนึกภาพ ผงขัดตัว ตอนอาบน้ำดูนะครับ
มันจะมีเม็ดบีดเล็กๆ ที่ช่วยขัดผิวได้
คล้ายๆกันเลยครับ ผงขัดจะเป็นเม็ดๆเล็กๆกระจายอยู่ในน้ำยาขัด
ซึ่งผมเชื่อค่อนข้างมากว่า น้ำยาที่ลูกค้าใช้ เป็นน้ำยาขัดสี มากกว่าน้ำยาเคลือบสีหรือเคลือบเงา
...
"กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว"
ใครที่รักรถจริงๆ จะเข้าใจเรื่องนี้ดีครับ
การให้รถเราโดนน้ำยาขัดบ่อยๆ ชั้นแลคเกอร์จะบางลงเรื่อยๆ
ทั้งที่จริงๆแล้ว เราใช้น้ำยาเคลือบสีเคลือบเงาปกติที่ไม่มีผงขัดจะดีกว่ามากๆ
แต่ก็นะ...ผู้ผลิตน้ำยาหลายราย
ก็เลือกจะผสมผงขัดลงไปในน้ำยาเคลือบสีเคลือบเงา
ขึ้นป้ายติดว่า "Wax" แต่ในนั้นกับมีผงขัดเสียนี่
ลูกค้าไม่รู้ ก็เชื่อว่าเป็นแว๊กซ์เคลือบสี ก็ลงกันบ่อยเลย
กว่าจะรู้ตัว ก็สายไปเสียแล้ว รถเงาตอนทำ แต่ทำบ่อยๆ สีบางลงซะงั้น...
...
เหตุที่น้ำยาเคลือบสีมีส่วนผสมของผงขัด ก็เพราะว่า มันทำงานง่ายครับ
ลงแป๊บเดียว รอยหายไปเยอะ (ก็มันขัดออกทั้งรอยทั้งผิวหน้าออกนี่นา)
เทียบกับพวกน้ำยาเคลือบสีปกติที่เป็นแว๊กซ์ มันจะเคลือบปกปิดรอยได้ แต่ไม่ได้ทำให้รอยหายไปครับ รอยยังอยู่ แต่น้ำยาจะไปเติมร่องทำให้รอยนั้นดูบางลงและเงาขึ้นนั่นเอง
ทำให้หลายๆเจ้า เริ่มใช้น้ำยาเคลือบสีที่มีส่วนผสมของผงขัดสีครับ
มันทำให้ขายลูกค้าง่าย เห็นผลง่าย และเห็นผลเร็ว แต่ไม่ได้บอกว่า ระยะยาว ลูกค้าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
...
สรุปแล้วคือ...ผมไม่ได้จะบอกว่า ร้านคาร์แคร์ทุกร้าน จะทำลายสีรถเราไปเสียหมดนะครับ
หลายๆร้าน ก็อาจจะไม่กล้าขัดลูกค้าที่มั่นใจมากๆว่าน้ำยาเคลือบเงาที่ตัวเองมีอยู่นั้นดีที่สุด เขาก็เลยไม่ได้ขัด
หรือพนักงานร้านบางคนก็อาจจะไม่ได้รู้เรื่องราวนี้จริงๆก็เป็นได้ครับ ทำให้บอกความแตกต่างไม่ได้
ดังนั้น เราเองที่เป็นเจ้าของรถ ต้องรู้รอบเรื่องนี้มากขึ้นสักหน่อยก็ยังดีครับ
ดีกว่าปล่อยให้เอาน้ำยาอะไรที่ไหนมาลงแว๊กซ์รถเราก็ได้หมด
แบบนั้นคงไม่เหมาะในระยะยาวเป็นแน่
จริงไหมครับ ^^
***************
หากลูกค้าสนใจงาน ขัดสี เคลือบแก้ว หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
สามารถติดต่อร้านผมได้เลยที่เบอร์ 064-4545-951 นะครับ
ร้าน "ชิล คาร์แคร์ ศรีราชา" ครับผม
หรือคลิก Link Facebook เพื่อเข้าไปเยี่ยมชมเพจ ได้เลยนะครับ ^^
ส่วนลิงค์นี้ >>> Google Maps แผนที่ร้านครับผม ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น